pm 2.5 ส่งผลอย่างไรกับผิวของเรา

จากข่าวเรื่องของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่มีปริมาณเกินขนาดแล้วเกิดเป็นฝุ่นควันพิษปกคลุมกรุงเทพฯ และจังหวัดทางภาคกลางอยู่ตอนนี้ นอกจากจะเป็นห่วงเรื่องของสุขภาพร่างกายข้างในแล้ว หลายคนก็คงสงสัยว่ามลภาวะพวกนี้ส่งผลกระทบกับผิวของเราหรือไม่ และเราจะมีวิธีรับมืออย่างไรให้ผิวเรายังคงเนียนใสสุขภาพดี วันนี้ KVKXSkincare.com ขอนำข้อมูลมาบอกต่อให้ค่ะ

มลภาวะทางอากาศอะไรที่เราต้องระวัง

ณ วันนี้ หลายๆ คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 มากขึ้น แต่เราก็ต้องไม่ลืมเรื่องของการป้องกันผิวจากรังสียูวี รังสีอินฟราเรดที่มากับแสงแดด ควันเสียที่มาจากคาร์บอนไดออกไซด์ และสารหนักที่เป็นโลหะต่างๆ ซึ่งความน่ากลัวของมลภาวะเหล่านี้คือจะลอยอยู่ในอากาศซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวัน

ผลของมลภาวะต่อผิวของเรา

ข้อกังวลใจอันดับต้นๆ ของเราคือการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า ซึ่งมลภาวะทางอากาศมีส่วนเป็นอย่างมากต่อการกระตุ้นให้เกิดเม็ดสีที่เข้มขึ้น ทำลายคอลลาเจนที่อยู่ในผิวของเรา แล้วจะนำไปสู่การมีริ้วรอยและผิวหนังหย่อนคล้อย นอกจากนี้ฝุ่นควันพิษยังทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว หรือไปกระตุ้นให้เกิดผดผื่นซึ่งเป็นอาการของการแพ้ขึ้นมาได้

ทุกคนไม่ต้องตกใจกลัวไปนะคะ เรามีวิธีง่ายๆที่จะช่วยรักษาผิวของเราให้ผ่านพ้นวิกฤตฝุ่นพิษนี้ไปได้

ล้างมลพิษออกจากผิวให้หมดจด

ในช่วงที่มีฝุ่นพิษ แนะนำให้ใช้วิธีล้างหน้าสองครั้ง (Double Cleansing) โดยเพิ่มขั้นตอนการใช้ออยล์ล้างหน้าหรือโลชั่นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อนที่จะล้างด้วยโฟมล้างหน้าอีกครั้ง  เพื่อจะได้แน่ใจว่าผิวหน้าของเราไม่มีเครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือสารพิษตกค้างบนใบหน้า คนผิวแห้งอาจกังวลใจว่ายิ่งล้างผิวยิ่งแห้งหรือไม่ ขอแนะนำให้ใช้ออยล์ล้างหน้าคู่กับโฟมที่เหมะกับคนผิวแห้งอย่าง i-Life เพื่อไม่ให้น้ำมันในผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป

ดีทอกซ์ผิว

ถึงแม้ว่าเราคิดว่าเราล้างหน้าสะอาดดีแล้ว แต่บางทีสารตกค้างก็ไปแอบซ่อนในรูขุมขนได้ แนะนำให้ลองใช้พวกมาส์กโคลน เพื่อดึงดูดสิ่งสกปรก สารตกค้างที่ซ่อนอยู่ออกจากรูขุมขน ซึ่งการใช้มาส์กโคลนพอกหน้าจะช่วยปรับสมดุลย์ให้ผิวอีกด้วย สำหรับคนผิวแห้งควรใช้สัปดาห์ละครั้ง ส่วนคนผิวมันควรใช้สัปดาห์ละสองครั้ง

บำรุงจากภายในสู่ภายนอก

การที่ผิวจะแข็งแรงมีแรงต้านทานมลพิษได้ก็ต้องเกิดจากการบำรุงร่างกายให้ดี ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะที่มีวิตามินซี (พบในผักผลไม้) และวิตามินอี (พบในเมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด้ อัลมอนด์) ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระ ที่จะชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวได้

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและป้องกันผิวไม่ให้เกิดจุดด่างดำ

การให้ความชุ่มชื้นกับผิวสำคัญมากหลังจากที่เราได้ทำความสะอาดไปแล้ว เราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ซึมลึกให้ความชุ่มชื้นกับผิวชั้นในเพื่อทำให้ผิวแข็งแรง นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีซิลิโคน พาราเบน หรือสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ อย่าง IDRA Deep Moisturising Serum ซึ่งเป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมสำคัญอย่าง Hyaluramine-S ที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 500 ดาลตัน สามารถซึมลึกถึงผิวชั้นใน หลังจากนั้นล็อคความชุ่มชื้นและเพิ่มความกระจ่างใสด้วย INACLEAR Cream ซึ่งมีส่วนผสมของ Helianthus Annuus Seed Oil ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะ อีกทั้งมี DKK-1 ที่มีกระบวนการยับยั้งการเกิดเม็ดสีของผิวถึง 5 ขั้นตอน

มลภาวะส่งผลอย่างไรกับผิวของเรา

ปกป้องผิวจากแสงแดด

ทาครีมกันแดดทุกวันแม้จะไม่ได้ออกไปไหนเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวของเราจากรังสี UV ซึ่งพบได้แม้กระทั่งในหลอดไฟในบ้าน และมลพิษต่างๆ โดยเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวได้ทั้งจาก UVA/UVB/IR และแสงสีฟ้า อย่าง I-BLOC ครีมกันแดดอัจฉริยะ ที่มี Thermus Thermophillus Ferment ที่สามารถยับยั้งการทำลายเซลล์ผิวในระดับ DNA จากรังสีความร้อน Infrared ที่มาจากแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ไฟฟ้ารอบตัว อีกทั้งยังเป็น anti-oxidant เพิ่มความแข็งแรงให้ชั้นผิว Stratum Corneum ที่เป็นปราการปกป้องผิวชั้นแรก

แปลและเรียบเรียงโดย KVKXSkincare.com ขอสงวนลิขสิทธิ์บทความนี้

อ้างอิง:

THE SCARY SIDE EFFECTS OF AIR POLLUTION ON YOUR SKIN

What is pollution doing to your skin?

error: Content is protected !!